เทคโนโลยี NFC (Near Field Communication) ได้รับความนิยมและสนใจเพิ่มขึ้นในการใช้งานในหลายสถานการณ์ และ ยังมีแอปพลิเคชันที่มุ่งเน้นความสะดวกสบาย และ ความปลอดภัยในการสื่อสาร และ แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในบทความนี้เราจะพูดถึง NFC Tag Chip ที่น่าสนใจอย่าง NXP NTAG 424 DNA ซึ่งเป็นหนึ่งในบทความสาธิตสุดยอดของเทคโนโลยี NFC ในปัจจุบัน มาทำความรู้จักกับความสามารถและการประยุกต์ใช้งานของ NXP NTAG 424 DNA กันเถอะ!
Continue reading NFC tag chip : ความสามารถของ NXP NTAG 424 DNAผู้เขียน: KonPhanTang
Recommended use : LNbits for beginners
แนะนำการใช้งาน : LNbits สำหรับผู้เริ่มต้น
LNbits คือระบบการจัดการกระเป๋าเงินแบบ โอเพ่นซอร์ส ที่ใช้เทคโนโลยี Lightning Network (LN) ในการส่ง และ รับเงินดิจิทัลคริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) โดยเฉพาะ Bitcoin อันมีการทำธุรกรรมอย่างรวดเร็วและราคาถูกกว่าการใช้เครือข่าย Bitcoin แบบปกติ (On-Chain) ซึ่งมักจะมีค่าธรรมเนียมที่สูงกว่าและเวลาการยืนยันที่ยาวกว่า LNbits ถูกพัฒนาขึ้นโดยชุมชนและ มีเป้าหมายเพื่อให้มีการนำเสนอบริการทางการเงินและการเรียกเก็บเงินผ่านลิงค์แบบ Lightning Network ได้ง่ายขึ้น
Continue reading Recommended use : LNbits for beginnersLightning Network คืออะไร? สำคัญอย่างไร?
Payment Channels in the context of the Lightning Network
Payment Channels ในบริบทของ Lightning Network :
Payment Channels (ช่องการชำระเงิน) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในเครือข่ายบล็อกเชน (blockchain) เพื่อช่วยในการประมวลผลธุรกรรมการชำระเงินโดยไม่ต้องทำธุรกรรมทุกครั้งลงบนบล็อกเชนหลัก คุณลักษณะหลักของ Payment Channels คือการเปิดช่องทางการชำระเงินระหว่างสองผู้ใช้เพื่ออนุญาตให้พวกเขาทำธุรกรรมภายในช่องนั้นโดยไม่ต้องโพสต์ทุกรายการลงบนบล็อกเชนหลัก นี่เปรียบเสมือนการเปิดบัญชีพิเศษระหว่างผู้ใช้สองคนเพื่อทำธุรกรรมระหว่างกันโดยเฉพาะเอาไว้ เมื่อช่องการชำระเงินถูกเปิดขึ้นแล้ว พวกเขาสามารถทำธุรกรรมการชำระเงินในหลายรอบได้โดยไม่ต้องโพสต์ทุกรายการลงบนบล็อกเชน.
Continue reading Payment Channels in the context of the Lightning Networkpeer-to-peer Transfer (P2P Transfer)
P2P Transfer หรือ Peer-to-peer Transfer คือการโอนเงินหรือการชำระเงินทางตรงผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์จากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่ง โดยในปัจจุบันมีผู้ให้บริการ FinTech เข้ามาให้บริการกันเป็นจำนวนมาก และ ยังมีจำนวน
ผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจาก FinTech มีขั้นตอนกระบวนการที่ไม่ยุ่งยาก ค่าธรรมเนียมการโอนหรือชำระเงิน
ถูกกว่าการโอนผ่านสถาบันการเงิน และ ยังสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มในคอมพิวเตอร์ หรือ โทรศัพท์เคลื่อนที่ทำให้สามารถใช้บริการได้สะดวก รวดเร็ว ตลอด 24 ชั่วโมง
ใครคือผู้คิดค้นเครือข่าย peer to peer
เครือข่าย Peer to Peer ถูกคิดค้นกันมาตั้งแต่ปี 1979 โดยผู้คิดค้น คือ USENET ในยุคแรกเริ่มของอินเทอร์เน็ตถือว่า P2P เป็นสิ่งที่ใหม่ และ น่าสนใจ ด้วยลักษณะที่คล้ายกับการใช้งานออนไลน์อินเทอร์เน็ตในปัจจุบันที่เราใช้กัน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยให้ผู้ใช้งาน สามารถที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกันได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม โดยที่ไม่ต้องง้อการทำงาน เก็บข้อมูล และ แชร์ทรัพยากรของแม่ข่ายหรือ Server กลาง อย่างที่เราๆรู้จักในนาม “เว็บไซต์” ซึ่งจะมี Server กลางคอยรับคำสั่งจาก User และก็ทำการตอบสนองผ่าน Web Browser ขึ้นมาแสดงผลเป็นหน้าเว็บไซต์ให้เราได้ใช้งาน แต่เครือข่าย peer to peer คือการทำงานโดยจะให้คอมพิวเตอร์ของแต่ละผู้ใช้ได้ทำหน้าที่เป็นทั้ง ผู้รับ และ ผู้ส่งข้อมูล ในเวลาเดียวกัน
ต้นกำเนิดของ Lightning Network
โปรโตคอล Lightning Network ได้รับการแนะนำโดย Joseph Poon และ Thaddeus Dryja ในเอกสาร “The Bitcoin Lightning Network” ที่ตีพิมพ์เมื่อเดือน มกราคม 2559 และชี้ไปที่โปรโตคอลนี้ว่า “Lightning Network เป็นวิธีแก้ปัญหาความสามารถในการปรับขนาดของ Bitcoin”
Lightning Network เป็นโปรโตคอลการสื่อสาร และ การชำระเงินเลเยอร์ 2 ที่สร้างขึ้นบน Bitcoin บล็อกเชน กล่าวอีกนัยหนึ่ง Lightning Network เป็นเครือข่ายแบบกระจายอำนาจสำหรับการชำระเงินแบบไมโครเพย์เมนท์ทันทีในปริมาณมาก ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถทำธุรกรรมได้ทันทีโดยมีค่าธรรมเนียมต่ำมาก โซลูชันนี้ช่วยให้ธุรกรรมสามารถประมวลผลนอกเครือข่าย ช่วยลดภาระจากเครือข่ายหลัก และปรับปรุงความสามารถในการปรับขนาดเครือข่าย
เครือข่าย Lightning Network ทำงานแตกต่างกับเครือข่ายบล็อกเชนและใช้ระบบช่องการชำระเงินแบบ payment channels ในการดำเนินการ คุณและคู่ค้าจะเปิดช่องการชำระเงินระหว่างกันโดยการส่งเงินในธุรกรรมแรกไปยังที่อยู่แบบมัลติซิกเนเจอร์ (multi-signature) ซึ่งจะถูกบริหารจัดการโดยทั้งสองฝ่ายและต้องใช้ลายเซ็นของทั้งสองฝ่ายเพื่อสร้างธุรกรรมใหม่ ธุรกรรมแรกนี้จะถูกกระจายไปยังบล็อกเชนและช่องการชำระเงินจะถูกเปิดไว้ ในการชำระเงินระหว่างกัน คู่ค้าจะสร้างธุรกรรมจากที่อยู่แบบมัลติซิกเนเจอร์ หลังจากที่ธุรกรรมที่ค้างอยู่ในเชนน์มีการดำเนินการเสร็จสิ้นทั้งหมดแล้ว ธุรกรรมนอกเชน (off-chain transactions) จะสามารถทำได้ และเมื่อช่องถูกปิด ยอดยกมาสุดท้ายจะถูกบันทึกในบล็อกเชน
เทคโนโลยีนี้ยังมีข้อเสียบางอย่างดังนี้ :
- การชำระเงินจะสามารถทำได้เฉพาะกับผู้ใช้ที่เชื่อมต่อกับช่องการชำระเงินเท่านั้น กล่าวคือผู้ใช้จะต้องอยู่ในสถานะที่เปิดใช้งาน และ เชื่อมต่อกับช่องการชำระเงินนั้นๆ ในทางตรงข้ามกับธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัลแบบดั้งเดิม ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดนี้
- เครือข่าย Lightning Network เป็นโปรโตคอลที่ยังคงพัฒนาอยู่ อย่างต่อเนื่อง แม้ผู้สร้าง Lightning Network เอง ก็ไม่แนะนำให้ใช้งาน Lightning สำหรับธุรกรรมที่เป็นจำนวนเงินมากๆ นี่เป็นการยืนยันถึงความพร้อมที่ยังคงถูกพัฒนาอยู่อย่างต่อเนื่อง
- โปรโตคอลนี้จำกัดความสามารถในการทำงานของช่องการชำระเงินเพื่อสนับสนุนสกุลเงินดิจิทัลทุกประเภทที่ถูกรองรับโดยผู้ใช้ทุกคน สถานการณ์นี้ทำให้กระบวนการธุรกรรมค่าใช้จ่ายมีความซับซ้อน และ ทำให้ผู้ใช้ต้องแบ่งเงินเพื่อให้มีความเหมาะสมในการใช้งานบนเครือข่ายบล็อกเชนเดิม และ เครือข่าย Lightning Network
หมายเหตุ : บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาและพัฒนาเท่านั้น ไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินในทุกกรณี
รู้หรือไม่ : เราสามารถกำหนดค่าให้คอมพิวเตอร์ เปิด-ปิด เองอัตโนมัติได้
สำหรับ Windows
- การตั้งเวลา “ปิด” คอมพิวเตอร์
1. คลิกที่ Start หลังจากนั้นค้นหาและคลิกขวาที่คำว่า Task Scheduler ในช่องค้นหาและเลือก Run as administrator
2. ในหน้าต่างของ Task Scheduler ให้คลิก Create Task ซึ่งจะอยู่ทางด้านขวา
3. ในแท็บ General ให้ทำการ ติ้กที่ “Run with highest privileges” และเลือก “Run whether user is logged on or not”
4. ในแท็บ Settings ให้ติ๊กที่ “Stop the task if it runs longer than” และเลือกเป็น 1 hour
5. ไปที่แท็บ Actions คลิก New และเลือก Start a program และใน Program/script ให้เซ็ทเป็น Shutdown และใน Arguments ให้เซ็ทเป็น -S หลังจากนั้นคลิก OK
6. ในขั้นตอนสุดท้าย ให้ไปที่แท็บ Triggers และคลิก New และตั้งค่าเวลาที่คุณต้องการ เช่น (Daily at 10:00 PM) และคลิก OK หลังจากนั้นคลิก OK อีกครั้งในหน้าต่างถัดไป
- ในการตั้งเวลา “เปิด” คอมพิวเตอร์ คุณสามารถทำได้โดย คุณจะต้องเข้าไปเซ็ทค่าใน BIOS
1. บูทคอมพิวเตอร์ของคุณและเข้าสู่หน้าต่าง BIOS setup ซึ่งวิธีการเข้าสู่การตั้งค่า BIOS ขึ้นอยู่กับคอมพิวเตอร์ของคุณ (โดยทั่วไปแล้วคือการกดปุ่ม DEL หรือ ปุ่ม Delete เพื่อเข้าสู่หน้าการตั้งค่า)
2. ไปที่ Power Options หาก BIOS ของคุณนั้นรองรับ ซึ่งใน Power Options จะมีฟังก์ชั่นที่ใช้ในการตั้งค่าการเปิดคอมพิวเตอร์โดยอัตโนมัติ ซึ่งอาจมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไปตามยี่ห้อของคอมพิวเตอร์ เช่น (Resume by Alarm)
3. ทำการ Enable และตั้งค่าเวลาตามที่คุณต้องการ
4. ทำการ Save and Exit ใน BIOS ของคุณ
หมายเหตุ ต้อง Sign in เข้าใช้งาน Windows ในฐานะ Administrator เท่านั้น
open-source : โครงการที่ซอฟต์แวร์ห้สาธารณชน
โครงการ open-source : เป็นโครงการที่ซอฟต์แวร์หรือโค้ดของโปรแกรมถูกเปิดเผย และ ให้สาธารณชนใช้งาน แก้ไข และ แจกจ่ายได้ฟรีตามสัญญาอนุญาตที่กำหนดไว้ เรื่องสำคัญของโครงการ open-source คือการให้สิทธิแก่ผู้ใช้ที่จะเข้าถึงและปรับปรุงซอฟต์แวร์ต่างๆ ตามความต้องการของพวกเขา
Continue reading open-source : โครงการที่ซอฟต์แวร์ห้สาธารณชนBlockchain Technology : UTXO model
โมเดล UTXO (Unspent Transaction Output) เป็นแนวคิดพื้นฐานที่ใช้ในระบบบล็อกเชนเช่น Bitcoin โดยเฉพาะ โมเดลนี้ใช้ในการติดตาม และ แสดงถึงการถ่ายโอน และ ความเป็นเจ้าของของมูลค่าในเครือข่าย
ในโมเดล UTXO เมื่อมีการทำธุรกรรมเกิดขึ้น จะมีการสร้างผลลัพธ์ที่แสดงถึงการถ่ายโอนมูลค่าจากผู้ส่งไปยังผู้รับ ผลลัพธ์เหล่านี้ที่เรียกว่า UTXOs จะสามารถนำมาใช้เป็นอินพุตในธุรกรรมในอนาคต
UTXOs เป็นตัวแทนของมูลค่าที่ยังไม่ได้ถูกใช้จ่าย ในแต่ละ UTXO จะสอดคล้องกับจำนวนเงินที่กำหนด (เช่น Bitcoin) และเชื่อมโยงกับ address หรือ public key
UTXOs เหล่านี้ทำหน้าที่เป็นอินพุตสำหรับธุรกรรมในอนาคต ในกรณีที่ผู้ใดต้องการส่งสินค้าสารสนเทศให้กับอีกฝ่ายหนึ่ง เขาจะอ้างอิงถึง UTXOs ที่เป็นเจ้าของและระบุที่อยู่ของผู้รับเป็นผู้ครอบครองใหม่ จากนั้น UTXOs นั้นจะถูกใช้จ่ายและสร้างเป็นผลลัพธ์ของธุรกรรม ผลลัพธ์เหล่านี้สามารถนำมาใช้เป็นอินพุตในธุรกรรมถัดไป ทำให้เกิดลำดับของการเป็นเจ้าของและการถ่ายโอนมูลค่า
โมเดล UTXO ให้วิธีการยืนยันความถูกต้องของธุรกรรมโดยตรวจสอบว่าอินพุตที่ใช้ในการถ่ายโอนมีสถานะไม่ได้ถูกใช้งานและเป็นเจ้าของโดยผู้ส่งเป็นอย่างไร นอกจากนี้ยังสามารถติดตามยอดคงเหลือ และ ป้องกันการใช้สองครั้ง (Double spending) ที่อินพุตเดียวกันในธุรกรรมหลายๆ รายการได้
โดยรวมโมเดล UTXO เป็นส่วนสำคัญในการรักษาความสอดคล้องและความปลอดภัยของระบบบล็อกเชนด้วยการอนุญาตให้มีการถ่ายโอนมูลค่าระหว่างผู้เข้าร่วมโดยโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้
Here are some key points about UTXOs :
- Unspent Transaction Outputs (UTXOs) : A UTXO represents an amount of cryptocurrency (e.g., bitcoins) that has been assigned to an address in a previous transaction and has not yet been spent. Each UTXO has a specific value and is associated with a unique address.
- Ownership and Control : The UTXO model ensures that the ownership and control of funds are tracked at the output level. To spend the funds from a UTXO, the owner needs to provide a valid digital signature proving ownership of the corresponding address.
- Input-Output Model : When creating a new transaction, the sender references specific UTXOs as inputs, effectively consuming them. The sum of the inputs must be equal to or greater than the desired transaction amount. The transaction then generates one or more new UTXOs as outputs, which can be used as inputs in subsequent transactions.
- Privacy and Fungibility : The UTXO model provides a level of privacy and fungibility. Since each UTXO represents a discrete amount, it becomes difficult to trace the flow of funds between addresses. UTXOs of the same value are generally considered interchangeable, preserving fungibility.
- UTXO Set and Validation : The UTXO set is a database that maintains the current unspent outputs. To validate a transaction, the network ensures that the referenced UTXOs exist, have not been spent, and the transaction’s inputs are properly authorized.
- UTXO Lifecycle : As transactions are executed, spent UTXOs are removed from the UTXO set, and new unspent UTXOs are added. This process continues as the blockchain grows, forming a historical record of all transactions.
The UTXO model plays a vital role in ensuring the security, immutability, and consensus of blockchain systems like Bitcoin, where transactions are validated and recorded based on the availability and ownership of unspent outputs.
HOW TO : RUN Lightning Node
การรันโหนด (node) ใน Lightning Network เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายการชำระเงินแบบทันที ของ Bitcoin (Lightning Network) โหนด Lightning Network มีบทบาทในการเปิดช่องการชำระเงิน, การส่งและรับเงินผ่านช่อง, และการเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายที่ช่วยในการสนับสนุนการทำธุรกรรมแบบแรงจูงใจใน Bitcoin. นี่คือขั้นตอนพื้นฐานในการรันโหนด Lightning Network :
- เลือกซอฟต์แวร์ : ในการรันโหนด Lightning Network คุณจะต้องเลือกซอฟต์แวร์ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ ซอฟต์แวร์ที่แนะนำคือ LND (Lightning Network Daemon), umbrel, lightningdevkit, mynode หรือ raspiblitz ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สที่มีความนิยม.
- ติดตั้งและปรับแต่ง : ติดตั้งซอฟต์แวร์ Lightning Network และปรับแต่งตัวโหนดของคุณตามความต้องการ เราแนะนำให้อ่านคู่มือและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์ที่คุณเลือกเพื่อรับคำแนะนำและข้อมูลที่ต้องการ.
- เตรียมการเงิน : เพื่อให้โหนดสามารถเปิดช่องการชำระเงินและรับเงินผ่านช่องได้ คุณจะต้องมีเงินในกระเป๋าของโหนด Lightning Network ทำได้โดยการโอนเงิน Bitcoin เข้ามาในกระเป๋าของโหนดนั้น ๆ
- เปิดช่องการชำระเงิน : หลังจากมีเงินในกระเป๋าของโหนด คุณสามารถเริ่มต้นเปิดช่องการชำระเงินกับโหนดอื่น ๆ ในเครือข่าย Lightning Network เพื่อทำการชำระเงิน.
- สนับสนุนเครือข่าย : การรับภาระหน้าที่ในการเป็นโหนด Lightning Network หมายความว่าคุณจะช่วยสนับสนุนการทำงานของเครือข่าย โหนดของคุณจะช่วยในการเปิดช่องการชำระเงิน, ส่งเงินผ่านช่อง, และป้องกันการโจมตีในเครือข่าย.
- รักษาความปลอดภัย : การรักษาความปลอดภัยของโหนด Lightning Network มีความสำคัญ เพื่อป้องกันการโจมตีและการบุกรุก คุณควรป้องกันรหัสผ่านและสำรองข้อมูลการเชื่อมต่อของคุณ.
- อัปเดต : อย่าลืมอัปเดตซอฟต์แวร์ Lightning Network เพื่อรักษาความปลอดภัยและประสิทธิภาพของโหนดของคุณ.
การรันโหนด Lightning Network ช่วยเพิ่มความมั่นคงและประสิทธิภาพในการทำงานของเครือข่าย Bitcoin และช่วยสนับสนุนการทำธุรกรรมแบบแรงจูงใจในเครือข่าย Bitcoin อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ระบบปฏิบัติการที่เหมาะสมในการรัน Lightning Node :
- Linux : ส่วนมากโหนด Lightning Network ถูกสร้างและทดสอบบนระบบปฏิบัติการ Linux เช่น Ubuntu, Debian, CentOS, หรือ Raspberry Pi OS.
- macOS : คุณสามารถรันโหนด Lightning Network บน macOS ได้ด้วยความสะดวก โดยใช้ซอฟต์แวร์ที่เหมาะกับ macOS.
- Windows : มีซอฟต์แวร์และคำแนะนำสำหรับการรันโหนด Lightning Network บนระบบปฏิบัติการ Windows แต่มักมีความซับซ้อนมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับ Linux.
- Docker : คุณสามารถรันโหนด Lightning Network ในคอนเทนเนอร์ Docker บนหลายระบบปฏิบัติการโดยมีความสะดวก.
- Dedicated Hardware : บางครั้งคุณอาจต้องการใช้อุปกรณ์ที่รันโหนด Lightning Network เป็นทางเลือก เช่น การใช้ฮาร์ดแวร์พิเศษที่ออกแบบมาเพื่อการรันโหนด Lightning Network.
โปรดทราบว่าการรันโหนด Lightning Network อาจจะมีความซับซ้อนขึ้นตามซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติการที่คุณเลือกใช้ คุณควรอ่านคู่มือและเอกสารเกี่ยวกับซอฟต์แวร์และโหนดของคุณเพื่อรับคำแนะนำและข้อมูลที่ต้องการในกระบวนการการติดตั้งและการใช้งาน
หมายเหตุ : บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาและพัฒนาเท่านั้น ไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินในทุกกรณี